เพราะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังและมีคุณสมบัติที่เหนือกว่าสารต้านอนุมูลอิสระทั่วไปอย่างวิตามินซีหรือวิตามินอี แอสตาแซนธินเป็นสารสีแดงธรรมชาติที่พบได้ในสาหร่ายฮีมาโตคอกคัส พลูเวียลิส ซึ่งเป็นสาหร่ายขนาดเล็กที่เจริญเติบโตในแหล่งน้ำจืดสะอาด โดยเมื่อสาหร่ายชนิดนี้เผชิญกับภาวะเครียดหรือแสงแดดจัด จะสร้างแอสตาแซนธินขึ้นเพื่อป้องกันตัวเอง ทำให้เกิดประโยชน์อย่างมากต่อร่างกายมนุษย์เมื่อนำมาใช้ในรูปแบบของอาหารเสริมหรือเครื่องสำอาง ความโดดเด่นของแอสตาแซนธินคือความสามารถในการป้องกันความเสียหายของเซลล์
แอสตาแซนธินซึ่งช่วยชะลอความเสื่อมของอวัยวะภายใน
เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้า และช่วยให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ขึ้น นอกจากนี้แอสตาแซนธินยังมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อเข่า ปวดกล้ามเนื้อ หรือมีภาวะอักเสบเรื้อรัง รวมถึงนักกีฬาและผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำที่ต้องการฟื้นฟูกล้ามเนื้อให้เร็วขึ้นและเพิ่มสมรรถภาพทางกาย แอสตาแซนธินยังเป็นสารที่ละลายในไขมัน จึงสามารถแทรกซึมเข้าสู่ชั้นเยื่อหุ้มเซลล์และปกป้องเซลล์ทั้งภายในและภายนอกได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่วิตามินซีหรือวิตามินอีไม่สามารถทำได้อย่างเท่าเทียม
มีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์มากมายที่สนับสนุนถึงประสิทธิภาพของแอสตาแซนธินในด้านต่างๆ เช่น การช่วยชะลอความเสื่อมของดวงตา ป้องกันการเสื่อมสภาพของจอประสาทตา และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว อีกทั้งยังช่วยลดริ้วรอย เพิ่มความกระชับ และทำให้ผิวแข็งแรงจากภายใน การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอสตาแซนธินจึงควรเลือกแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ ใช้แหล่งวัตถุดิบจากธรรมชาติแท้ มีการสกัดด้วยเทคโนโลยีที่ปลอดภัย
ควรผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เช่น อย. หรือมาตรฐานการผลิต GMP เพื่อความมั่นใจในการบริโภค หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ อยากมีผิวพรรณที่สดใส ดวงตาที่แข็งแรง และร่างกายที่มีภูมิคุ้มกันพร้อมรับมือกับความเครียดจากมลภาวะและอายุที่เพิ่มขึ้น แอสตาแซนธินคือคำตอบที่ไม่ควรมองข้าม อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ทำให้แอสตาแซนธินได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คือความสามารถในการดูแลสมองและระบบประสาท เนื่องจากสามารถผ่านแนวกั้นสมองและเลือดได้ ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระส่วนใหญ่ไม่สามารถทำได้ ทำให้แอสตาแซนธินช่วยลดความเสี่ยงของโรคสมองเสื่อม ความจำเสื่อม ชะลอการเสื่อมของเซลล์ประสาทได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในยุคที่การใช้เทคโนโลยีและชีวิตประจำวันเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความเครียด การมีตัวช่วยอย่างแอสตาแซนธินจึงกลายเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม แอสตาแซนธินยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลรูปลักษณ์ภายนอกให้ดูอ่อนกว่าวัย เพราะมีผลการวิจัยที่ชี้ชัดว่าเมื่อรับประทานอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ผิวเนียนใส ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ และยังช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดโดยลดการถูกทำลายของคอลลาเจนจากรังสียูวีได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องเผชิญแสงแดดบ่อย เช่น นักท่องเที่ยวกลางแจ้ง พนักงานที่ทำงานนอกสถานที่ หรือผู้ที่ขับขี่ยานพาหนะกลางแดดเป็นประจำ